ทำความเข้าใจสาเหตุของอาการ “ตื่นนอนแล้วปวดหัว”
การที่เพิ่งตื่นนอนแล้วปวดหัว อาจเป็นอาการของ Morning Headache หรือ ‘อาการปวดหัวหลังตื่นนอน’ ซึ่งแน่นอนว่าสาเหตุหลักต้องเกี่ยวข้องกับการนอน และไม่ว่าจะนอนเยอะหรือนอนน้อยก็อาจเป็นสาเหตุของอาการตื่นนอนแล้วปวดหัวทั้งสิ้น ทั้งนี้ยังมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้
1. นอนน้อยเกินไป (Sleep Deprivation)
การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ตื่นนอนแล้วปวดหัวได้ ซึ่งไม่เพียงแต่การนอนหลับเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่การนอนน้อยยังส่งผลกระทบอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวหลังตื่นนอนได้อีกด้วย
- สมองทำงานหนักเกินไป : การอดนอนหรือนอนน้อย ทำให้สมองต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาสภาวะตื่นตัว ทำให้เกิดความตึงเครียดของหลอดเลือดในสมอง
- สารสื่อประสาทไม่สมดุล : การนอนหลับไม่เพียงพอส่งผลกระทบต่อสารสื่อประสาทในสมองบางชนิด เช่น เซโรโทนิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมความเจ็บปวด ทำให้ตื่นมาแล้วปวดหัวจากสมองทำงานหนัก แล้วไม่มีเซโรโทนินมาควบคุมให้นั่นเอง
- ความเครียด : การนอนน้อยทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) มากขึ้น ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับอาการปวดหัวหลังตื่นนอน
2. นอนเยอะเกินไป (Oversleeping)
ถึงแม้ว่าการนอนน้อยจะมีโอกาสตื่นมาแล้วปวดหัวได้มากกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าการนอนเยอะจะไม่ทำให้ปวดหัวเลย เพราะอาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายได้ ดังนี้
- ระดับสารสื่อประสาทเปลี่ยนแปลง : การนอนนานเกินไปอาจส่งผลให้ระดับสารสื่อประสาทบางชนิดในสมอง รวมถึงเซโรโทนินลดลงชั่วคราว ทำให้เกิดอาการปวดหัวหลังตื่นนอนได้
- คุณภาพการนอนไม่ดี : แม้ว่าจะนอนเยอะ แต่หากคุณภาพการนอนไม่ดี เช่น นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ หรืออยู่ในช่วงหลับลึก (REM Sleep) มากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอาการตื่นนอนแล้วปวดหัวได้
- ภาวะขาดน้ำ : บางครั้งการนอนนานมากเกินไปอาจทำให้ไม่ได้ดื่มน้ำเป็นเวลานาน ส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำ และเกิดอาการปวดหัวหลังตื่นนอน
- ร่างกายสับสนจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว : การเปลี่ยนเวลานอนจากปกติเป็นนอนมากเกินไปอย่างกะทันหันอาจทำให้นาฬิกาชีวภาพของร่างกายสับสน ส่งผลให้นอนเยอะเกินไปแล้วปวดหัวได้
3. คุณภาพการนอนไม่ดี
ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะทำให้การตื่นนอนมาแล้วปวดหัวหรือไม่ปวด เพราะการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ อาจส่งผลกระทบให้กับร่างกาย โดยสาเหตุที่ทำให้นอนหลับไม่ดีอาจมาจากที่นอนแข็ง นอนแล้วไม่สบายตัว หรือความเครียด วิตกกังวลต่าง ๆ ซึ่งจะแสดงออกผ่านทางร่างกายได้ดังนี้
- นอนกรน หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) : การกรน หรือการหยุดหายใจขณะนอนหลับทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ส่งผลให้สมองขาดออกซิเจน และเกิดอาการปวดหัวหลังตื่นนอน
- นอนผิดท่า : ท่านอนที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่เกร็งและตึงตัว นำไปสู่อาการปวดหัวตื้อ ๆ ได้
อ่านบทความที่น่าสนใจ:คนปวดหลังห้ามพลาด! เลือกที่นอนแบบไหนให้ไม่ปวดหลัง รู้ก่อนโล่งก่อน
4. ปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากการนอนแล้ว ปัจจัยอื่น ๆ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ตื่นมาแล้วปวดหัวได้
- เครื่องดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ : การดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์มากเกินไปก่อนนอน อาจทำให้ตื่นนอนแล้วปวดหัวได้
- ความเครียดและความวิตกกังวล : ส่งผลต่อกล้ามเนื้อคอและบ่า รวมถึงเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น
- ปัญหาสุขภาพ : เช่น ไมเกรน, ไซนัสอักเสบ, กัดฟันขณะหลับ, หรือความดันโลหิตสูง
อ่านบทความน่าสนใจ:แนะนำอาหาร 10 อย่างสำหรับทานก่อนนอน ช่วยให้หลับสบายยาวนานตลอดคืน
ตื่นนอนแล้วปวดหัว มีวิธีแก้อย่างไร?
หากตื่นนอนแล้วปวดหัวบ่อย ๆ คงไม่ดีกับทั้งร่างกายและสภาพจิตใจของตัวเอง ดังนั้นมาดูกันว่าจะมีวิธีแก้อาการตื่นนอนแล้วปวดหัวได้อย่างไรบ้าง
1. รักษาสมดุลการนอน
การพยายามปรับเวลานอนให้เป็นเวลาอย่างสมดุล เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ โดยอาจปฏิบัติตามวิธีดังนี้
- นอนให้เป็นเวลา : พยายามรักษาเวลาในการนอนให้สม่ำเสมอทุกวัน รวมถึงวันหยุด เพื่อปรับนาฬิกาชีวภาพของร่างกายให้เป็นปกติเท่ากัน
- นอนหลับให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย : โดยผู้ใหญ่ควรนอนหลับ 7-9 ชั่วโมง แต่ถ้าหากยังมีอาการตื่นนอนแล้วปวดหัว อาจปรับเพิ่มเวลานอนเล็กน้อย
- ไม่ควรนอนเยอะเกินไป : หากมีอาการปวดหัวเพราะนอนเยอะ วิธีแก้คือจำกัดเวลานอนให้พอดี ไม่ควรนอนเกิน 9 ชั่วโมงต่อคืน หากต้องการงีบกลางวัน ควรจำกัดเวลางีบให้อยู่ประมาณ 20-30 นาที
อ่านบทความที่น่าสนใจ:นอนกี่ชั่วโมงถึงพอดี? ตารางเวลาการนอนที่เหมาะสมสำหรับแต่ละวัย
2. ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน
สภาพแวดล้อมการนอนเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณภาพการนอนดีขึ้นได้อย่างมีนัยยะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของที่นอน ความกว้างของเตียงนอนที่เหมาะสม อุณหภูมิ หรือแม้แต่สีและกลิ่น ทั้งหมดนี้ล้วนช่วยให้นอนหลับได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น
- ทำห้องนอนให้มืดสนิท เงียบสงบ และเย็นสบาย : แสงและอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไป อาจส่งผลให้ร่างกายหลับไม่สนิท พักผ่อนได้ไม่เต็มที่
- เลือกที่นอนและหมอนที่เหมาะกับตนเอง : เพื่อให้นอนหลับสบายมากขึ้น ควรเลือกที่นอนและหมอนที่รองรับสรีระได้ดี ช่วยจัดกระดูกสันหลังให้อยู่ในแนวที่ถูกต้อง ลดแรงกดทับที่คอและศีรษะ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวได้
3. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
ไม่เพียงแค่ปรับสภาพแวดล้อมในการนอนเท่านั้น แต่พฤติกรรมในชีวิตประจำวันก็สามารถส่งผลต่อการนอนได้เช่นกัน
- ลดการดื่มคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ : คาเฟอีนและแอลกอฮอล์อาจมีสารบางตัวที่ส่งผลด้านการนอนหลับได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน โดยเฉพาะช่วงเย็นก่อนนอน
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ : เพื่อลดอาการร่างกายขาดน้ำขณะหลับ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการตื่นนอนแล้วปวดหัว
- พยายามจัดการกับความเครียด : เพื่อลดการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล โดยอาจเลือกทำโยคะ นั่งสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายก่อนนอน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายเบา ๆ จะช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น
4. ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
หากลองปรับพฤติกรรมแล้วอาการปวดหัวยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสงสัยว่ามีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ที่นอนพระราม 9 พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างคุณภาพการนอนหลับ
เพราะคุณภาพการนอนที่ดี ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทุกคนควรมีในชีวิต เพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ลดอาการตื่นนอนแล้วปวดหัว ดังนั้นเพื่อให้การนอนหลับของคุณเป็นไปอย่างผ่อนคลาย ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนได้อย่างสูงสุดที่นอนพระราม 9 พร้อมให้บริการด้านผลิตภัณฑ์เพื่อการนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นที่นอน หมอน ผ้าห่ม ชุดเครื่องนอนคุณภาพสูง หรือถ้าหากคุณต้องการเตียงนอนที่ดีไซน์เฉพาะคุณ เราก็มีบริการออกแบบและผลิตเตียงนอน เพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงาม และฟังก์ชันการใช้งานอย่างแท้จริง
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเรา หรือโทร. 085-911-3449 และทักFacebook Messenger ของเราได้เลย!